นิรโทษกรรมใจให้การด่า
นายแพทย์ กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล
นายแพทย์ กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล
ตอนเด็ก ๆ เรามักได้ยินเพื่อนพูดหรือแม้แต่เราเองก็มักจะพูดเสมอว่า ถูกพ่อด่า แม่ด่า ครูด่า มาเมื่อสักครู่นี่เอง เพราะเราไม่เชื่อฟังท่านเหล่านั้น หรือเพราะเราเป็นเด็กเกเร ไม่มีวินัยและอาจจะไปกระทำความผิดอะไรสักอย่างมาประมาณนั้น แต่เราก็มักจะไม่เข้าใจว่า การด่าของท่านเหล่านั้น อาจจะเป็น “ว่า” หรือการ “ตำหนิ” ในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเราเสียมากกว่า
การใช้ภาษาของคนเรา บางทีก็มีปัญหา ปัญหาคือไม่ใช้คำยาก แต่เพราะเราชอบใช้คำง่าย ๆ สบาย ๆ นึกคำไหนออกก็หยิบมาใช้ แต่บางทีความหมายอาจจะทำให้เข้าใจผิดได้ ทั้งในทางบวกและในทางลบซึ่งมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้คำเหล่านั้นก็ได้
เมื่อพูดถึงการด่านั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบประเด็นเรื่องนี้มาพูด เพื่อเป็นการบริหารสมอง บริหารความคิดของท่าน และแน่นอนคงจะเป็นการบริหารอารมณ์ของเราด้วย เนื่องจากในปัจจุบันเรามีปัญหาเรื่องการใช้สื่อที่อิสระจนเกินไป จนทำให้คนไทยจำนวนมากหลงระเริงอยู่กับการด่าทอคนอื่นอย่างเมามัน เด็กและเยาวชนติดนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้นจนแยกแยะโลกแห่งความเป็นจริงและโลกในโลกไซเบอร์ไม่เป็นเสียแล้ว ผู้ใหญ่เองก็ไม่น้อยหน้า ตกเป็นเหยื่อและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก ๆ อยู่ตลอดเวลา การด่าที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็จะถูกเหมารวมว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายไปเสียหมด
การด่ามีอะไรบ้าง......
ด่าว่า เป็นการตำหนิติเตียนทั่ว ๆ ไป ความหมายหลักอาจจะเป็นการว่ากล่าวหรือตักเตือน ส่วนใหญ่คนที่ทำนั้นทำไปด้วยเจตนาดี เช่นพ่อแม่ด่าว่าลูกที่ไม่ช่วยงานบ้าน แต่ลึก ๆ แล้วปรารถนาดีอยากให้ลูกเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลือครอบครัวและฝึกฝนการทำงาน เจ้านายด่าว่าลูกน้อง เพราะอยากให้เป็นคนเก่งในการทำงาน การด่าว่าแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร และถ้าคนที่รับฟังคำด่าแบบนี้เข้าใจอีกฝ่าย ก็คงไม่ทำให้หงุดหงิดรำคาญใจอะไรมากมาย เพราะพอรู้เจตนาของผู้ด่าว่า
ด่าทอ ราวกับว่ามีเรื่องขัดใจกัน คือแต่ละฝ่ายไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายสมหวังหรือพึงพอใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ พอเกิดความผิดหวัง อารมณ์เลยขึ้น และเริ่มคุมไม่ได้จนในที่สุดก็เกิดการทะเลาะกัน นั่นคือเกิดการด่าทอกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการทำเพื่อหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองและปรารถนาจะใช้คำพูดที่หยาบคายหรือมีความรุนแรงแฝงอยู่ ที่ตัวเองคิดว่าทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างพึงพอใจ
ด่าสาดเสียเทเสีย ข้อนี้คงจะมีความเคียดแค้นชิงชังเก็บกดอย่างรุนแรง เรียกว่าขุดหรือรื้อฟื้นเรื่องไหนเอามาด่าได้เพื่อความสะใจ ณ ช่วงเวลานั้นซึ่งทำให้ อารมณ์ขุ่นมัวต่อเนื่อง บางรายก็ค้างคาใจต่อเนื่องอยู่หลายวัน ซึ่งก็สะท้อนสุขภาพจิตของคนด่าเองว่ามีปัญหามากน้อยขนาดไหนและพลอยให้ผู้ที่ถูกด่าต้องเครียดตามไปด้วย ด่ากระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายหนึ่งให้ติดกับดักอารมณ์ของตนเอง อาจจะเป็นอย่างกรณีด่าสาดเสียเทเสีย หรือบางคนอาจจะด่าเนิบ ๆ ด่าเรื่อย ๆ เรียกว่าใช้สงครามจิตวิทยาได้ดีพอสมควรและ คนที่ด่านั้นก็มีความสามารถคุมอารมณ์ได้ดีพอสมควร ใครที่โดนแบบนี้อาจจะน่ากลัวและเครียดกว่ากรณีอื่น ๆ ที่ยกมาก่อนหน้านี้
ผมคิดว่าคงมีการด่าอีกหลาย ๆ ประเภทในสังคมไทย บางรายถึงขั้นใช้กายกรรมร่วม กับวจีกรรมด้วย เช่น การลงไม้ลงมือ ใช้ความรุนแรง ทั้งหมดทั้งปวงนั้นมักนำมาซึ่งความ หายนะสูญเสียทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพใจ แต่จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับ “เจตนา” ของผู้กระทำ
จะฝึกจิตอย่างไรให้รับคำด่าได้.....
การถูกด่าเป็นเรื่องที่ทุกคนอาจจะเคย โดน ผมว่าคนที่เคยโดนนั้นน่าจะโชคดีกว่าคนที่ไม่เคยโดน เพราะอย่างน้อยก็เป็นการได้ฝึกความคิดของตนเอง เหมือนมีใครสะกิดเราให้รับรู้ว่า สิ่งที่เราทำไม่ถูกต้องเสมอไป หรือแม้เราทำถูกต้อง แต่ก็มีคนอื่นๆที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเรา เพียงแต่เขาบางคนก็ไม่อาจแสดงความเห็นแย้งในความแตกต่างได้อย่างถูกช่องทางมากนัก เลยเลือกที่จะใช้ช่องทางการแสดงออกทางความคิดด้วยวาจาที่ผสมอารมณ์ ทั้งนี้และทั้งนั้น ส่วนใหญ่มักไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่ด่า แต่ขึ้นอยู่กับคนที่รับคำด่ามากกว่าว่าจะรับสาส์นเหล่านั้นและตีความไปอย่างไร แล้วเราจะฝึกจิตใจอย่างไรไม่ให้หวั่นไหวกับการถูกด่าชนิดต่าง ๆ
ถามตัวเองว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ไหม ใครพูดอะไรเล็กน้อย อารมณ์พลุ่งพล่าน โกรธทันที โดยที่ยังมิได้พินิจพิเคราะห์ คนเหล่านี้ มักมีความคิดอัตโนมัติในเชิงลบอยู่แล้ว ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องหากใช้สติและควบคุมอารมณ์ได้ อาจจะเข้าใจหรือไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ให้เปลือง พลังชีวิต ถ้าคุณเป็นคนแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา น่าจะต้องปรึกษาบุคลากรดูแลสุขภาพจิตแล้ว หรือปฏิบัติธรรมบ้าง เพื่อให้สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
ถามตัวเองว่าเป็นคนชอบใส่ใจกับคำพูดบางประเภทที่ไม่มีค่ามากพอหรือเปล่า อันนี้เป็นเรื่องของตัวตนและพลังชีวิตของคุณแล้ว หากเป็นคนที่ low self หรือคนที่มีความ ภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ จะรู้สึกว่าทุกๆคำพูดของคนอื่น ๆ นั้นช่างมีอิทธิพล กำหนดความสุขความทุกข์ของตนเองได้อย่างมากมาย คนเหล่านี้จะรู้สึกรับไม่ได้หากมีคนไม่ชอบตนเอง โดยลืมไปว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่จะมีคนชอบทุกคนได้ ไม่มีใครเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบจนเป็นที่ถูกอกถูกใจทุก ๆ คน
จะนิรโทษกรรมทางใจให้กับคำด่าได้อย่างไร....
ก็คงต้องมองที่ความคิด อารมณ์และความเข้าใจในการรับรู้ถึงชนิดของการด่าที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าปล่อยวางได้และมองในแง่ดีที่ถูกด่าว่าเพราะความปรารถนาดี คุณจะได้พัฒนาตนเองขึ้นเรื่อย ๆ ชีวิตคงมีความก้าวหน้า ส่วนคนที่ถูกด่าทอสาดเสียเทเสีย ให้นึกเสียว่า คนที่ด่าเราเขาคงมีชีวิตที่ไม่มีความสุขสักเท่าไร การด่าใครออกไป ก็เป็นการทำให้เขามีความสุขเพียงชั่วคราว แล้วก็กลับมาทุกข์ต่อ คนประเภทนี้เป็นคนที่น่าเวทนาอย่างมาก
ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครในที่นี้ชอบการถูกด่าเพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกกลัวและกังวล แต่การด่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเสมอไปถ้าคนที่ชอบด่าทำไปด้วยเจตนาที่ดีและอยู่บนพื้นฐานอารมณ์ที่มั่นคงมาก่อน อย่าลืมสิครับ เรื่องที่คนอื่นเขาด่าว่าเรามันจะไม่น่ากลัวเลย ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาด่า ฝึกสร้างความมั่นใจและภูมิใจในตัวเองสักหน่อยคงจะดี
ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า คือการทำในสิ่งที่ผิดแล้วคนรอบข้างไม่ด่าว่า แต่มัวแต่ชื่นชมและยกยอปอปั้นให้ท้าย ซึ่งจะกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนคนนั้นในที่สุด.
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ